23 Feb : เที่ยวเกียวโต ; ปราสาทนิโจ, วัดทอง, ข้าวหน้าเทมปูระ, วัดน้ำใส

***วันนี้เราจะใช้ Kyoto Bus Pass (500เยน) ที่เราซื้อไว้ตั้งแต่เมื่อวาน***

ตื่นแต่เช้า เก็บของเช็คเอ้าท์ (อยากนอกอีกซักคืน ห้องดีมากจริงๆ) แล้วโบกรถบัสฝั่งตรงข้ามโรงแรมไปสถานีเกียวโตเพื่อฝากกระเป๋าไว้ที่ locker ในสถานี

สถานที่แรกที่จะไปคือ..."ปราสาทนิโจ" (ค่าเข้าปราสาท600เยน)

จุดเด่นของปราสาทนิโจก็คือ พื้นไม้ที่มีเสียงดังเหมือนนกไนติงเกลเวลาที่มีคนเดินผ่าน หรือที่เรียกว่า Nightingale floor เนื่องจากปราสาทนิโจเป็นทั้งที่พักและที่ออกว่าราชการเวลาท่านโชกุนมาเยือนเกียวโต เจ้าพื้นไม้ที่มีเสียงนกไนติงเกลนี้จึงได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นระบบป้องกันความปลอดภัย ไว้เตือนให้เหล่าทหารซามูไรทั้งหลายไหวตัวทัน เมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามา
นอกจากจะช่วยระวังภัยแล้ว  เสียงพื้นยังฟังไพเราะระรื่นหูเมื่อเทียบกับเสียงอ๊อดแอ๊ดของไม้ทั่วไปทำให้ไม่รบกวนโสตประสาทของบุคคลสำคัญอย่างท่านโชกุน

วิธีการเดินทาง : เริ่มต้นให้ขึ้นรถบัสสาย 50 ด้านหน้าสถานีเกียวโต ลงป้าย "Nijojo-mae"
ปล.เวลาลงรถแล้วอย่าลืมดูป้ายบอกเวลาที่รถจะมารอบถัดๆไป จะกะเวลาเที่ยวได้ถูกด้วยนะครับ

ประตูทางเข้าปราสาท
ที่พักโชกุน (พื้นทางเดินมีเสียงคล้ายนกไนติงเกล)

รูปแกะสลักที่ซุ้มประตู
วิวภายในปราสาท
วิวภายในปราสาท
วิวภายในปราสาท
วิวภายในปราสาท
ภายนอกมีคลองล้อมรอบปราสาท
สวนภายในปราสาท
สวนภายในปราสาท

สถานที่เที่ยวถัดไปของเราคือ "วัดKinkakuji(วัดทอง)"

วิธีการเดินทาง : ให้นั่งรถบัสจากหน้าปราสาทนิโจ สาย50 มาลงป้าย "Kinkakuji-mae"

แต่!!!....อย่าเพิ่งรีบร้อนเข้าวัดนะครับ ให้เดินย้อนออกมาทางปากซอยจนถึงถนนใหญ่ แล้วข้ามถนน เดินไปทางด้านขวา เพื่อจะไปกิน..."ข้าวหน้าเทมปูระแสนอร่อยยยยย!!!"

ขอบอกเลยว่า ร้านนี้...ถูก อร่อย สุดยอดจริงๆครับ!!!
เม็ดข้าวที่ใหญ่และเหนียวหนึบไม่เละ กุ้งที่นุ่มและสด แป้งเทมปูระที่กรอบอร่อย(มากกกกกก)
ผักทอดที่ไม่อมน้ำมันเลย ขอยกนิ้วให้เลยจริงๆครับ

ด้านหน้าร้าน
ภายในร้าน
เมนูครับ (มีหน้าข้าวเทปูระอีกหน้า แต่ผมลืมถ่ายรูปมา)
น่ากินมากๆ
ซดคู่กับข้าวเทมปูนะครับ

เมื่อทานจนอิ่มและฟินแล้ว ให้เดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อไปเที่ยวชม วัดทอง
ค่าเข้าชม : 400เยน

วัดทอง เป็นวัดที่มีประวัติมายาวนาน และเป็นวัดที่มีเรื่องเล่าของอิ๊กคิวซังด้วย
เดิมทีที่นี่เป็นปราสาทของโชกุน "โยชิฒึซึ" แต่เมื่อโชกุนได้เสียชีวิตลง ก็ได้เปลี่ยนเป็นวัดแทน โดยปราสาททองที่อยู่กลางสระกระจกเป็นจุดที่โดดเด่นของวัดคินคะคุจินี้ จริงๆแล้วปราสาทนี้เคยถูกทำลายไปในสมัยสงครามกลางเมือง ส่วนปราสาทที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นใหม่ โดยลอกแบบจากปราสาทเดิม และสร้างให้เป็นสีทอง

สวยอร่ามตามากๆ
ซูมใกล้ๆ
ด้านหลัง

สถานที่เที่ยวสุดท้ายของวันนี้..."วัดKiyomizudera(วัดน้ำใส)"
ค่าเข้าชม : 300เยน

วิธีการเดินทาง : นั่งรสบัสจากด้านหน้าวัดทอง สาย 12 จากสถานี Kinkakuji-mae ไปลงที่ป้าย Gion และต่อสาย 100 202 206 207 ไปป้าย Kiyomizu-michi คับ
(อันนี้ก๊อปปี้เค้ามานะครับ แต่น่าจะตามนี้เพราะผมเองก็จำไม่ค่อยได้ละ ขึ้นรถมั่วอยู่ซักพักเหมือนกัน แต่ดีที่เป็นบัตรเหมา อิอิ)

พอลงรถแล้ว ให้เดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ระหว่างทางจะมีร้านขายขนมและของฝากมากมาย แวะซื้อได้ตามอัธยาศัย (ไว้ซื้อขากลับก็ได้นะครับ)

วัดน้ำใส ที่หลายๆคนได้ไปดื่มน้ำแล้วอธิษฐานเพื่อให้สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต เหตุผลที่เรียกว่าวัดน้ำใน ก็เพราะในบริเวณวัดมีน้ำตกอยู่สายหนึ่ง ซึ่งตามตำนานบอกไว้ว่า น้ำตกนี้บริสุทธิ์มากเลยเป็นที่มาของชื่อวัดนั่นเอง

ด้านหน้าทางเข้าวัด

มุมที่ทุกคนต้องถ่าย
เจดีย์แดง
น้ำที่ให้ดื่ม ใสจริงๆครับ

หลังจากนั้นก็ได้เดินย้อนกลับมา ซื้อของฝากเล็กน้อย แล้วหาอะไรทาน เจอข้าวหน้าเนื้อที่อร่อยมากอีกร้านนึง (แต่ไม่ได้ถ่ายรูปหน้าร้านมานะครับ)

ข้าวหน้าเนื้อฉ่ำมากๆ
ข้าวหน้าหมูไข่ดิบ
ไก่คาราเกะ

ทานเสร็จแล้ว ก็นั่งรถไฟกลับ New Osaka Hotel พักผ่อนครับ zZzZzZ

วันพรุ่งนี้ : เที่ยวโกเบ,กินเนื้อโกเบที่ Steak Land, อ่าวโกเบ, ์Nana Green Tea", China Town

2 ความคิดเห็น:

Unknown กล่าวว่า...

อยากทราบว่าร้านข้าวหน้าเนื้อที่ออกจากัดน้ำใสมา พิกัดอยุ่ช่วงไหนคะ

gibfy กล่าวว่า...

รบกวนสอบถามนิดค่ะ รถบัสจากปราสาทนิโจมาวัดทองใช้เวลาประมาณกี่นาทีเหรอคะ ต้องนั่งฝั่งเดียวกับปราสาทเลย หรือต้องข้ามฝั่งคะ